โรคตับอักเสบบีคืออะไร??
โรคตับอักเสบี เกิดจากการที่ตับติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสนี้จะเข้าไปทำลายตับและก่อให้เกิดมะเร็งตับ หลายคนที่ติดเชื้อไม่ทราบว่ามีเชื้ออยู่ในร่างกาย การติดเชื้อที่พบมากในหลายประเทศเป็นการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกขณะคลอด
โรคตับอักเสบ- ข้อมูลพื้นฐาน
โรคตับอักเสบ หมายถึง การอักเสบของตับ ตับมีความสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดีของคุณ เมื่อตับเกิดการอักเสบหรือเสียหาย มันอาจทำหน้าที่ได้ไม่ครบถ้วนและด้วยเหตุนี้จึงส่งผลต่อสุขภาพของคุณ
การอักเสบของตับอาจเกิดจาก แอลกอฮอล์ ยาเสพติด หรือ เชื้อไวรัส ในประเทศออสเตรเลียไวรัสที่พบมากที่สุดที่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบ คือไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบี และ ไวรัสตับอักเสบซี ไวรัสเหล่านี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงมีเพียงอย่างเดียวที่เหมือนกันคือส่งผลกระทบต่อตับ
โรคตับอักเสบเอ ติดต่อผ่านทางอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อได้เองภายในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันมีวัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคตับอักเสบเอ
โรคตับอักเสบซี ติดต่อผ่านทางเลือด เชื้อตับอักเสบซีจะเข้าไปทำลายตับและก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับ มีการรักษาโรคตับอักเสบซีแต่ไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันโรคนี้
เอกสารฉบับนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับโรคตับอักเสบบี โรคตับอักเสบบีมีวัคซีนสำหรับป้องกันและยังมียาสำหรับรักษาผู้ที่เป็นโรค
ถ้าคุณเป็นโรคตับอักเสบบีจะมีผลอย่างไรบ้าง?
โรคตับอักเสบบีมีทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ผู้ใหญ่ส่วนมากที่ได้รับเชื้อจะกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้ภายใน 6 เดือน และจะสร้างภูมิคุ้มกันไว้ต่อต้านโรค หลังจากที่กำจัดเชื้อออกจากร่างกายแล้ว จะไม่ติดเชื้ออีกและจะไม่แพร่โรคนี้ไปสู่ผู้อื่นได้อีก กรณีนี้เรียกโรคตับอักเสบบีแบบเฉียบพลัน
ผู้ที่ติดเชื้อเป็นเวลานานกว่า 6 เดือนจะมีการดำเนินโรคกลายเป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง 90% ของทารกที่เป็นจะมีการดำเนินโรคกลายเป็นเรื้อรังซึ่งทำให้เกิดความเสียหายของตับ ตับวาย (ตับไม่สามารถทำหน้าที่ได้ถูกต้อง) และอาจเป็นโรคมะเร็งตับเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
คนที่เป็นโรคตับอักเสบบียิ่งอายุยังน้อยยิ่งมีความเสี่ยงสูงมากขึ้นที่ตับจะถูกทำลายและกลายเป็นมะเร็งตับเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ในประเทศออสเตรเลียคนที่เป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรังส่วนใหญ่เกิดในต่างประเทศและได้รับโรคตับอักเสบบีเมื่ออยู่ในวัยเด็กหรือทารก
โรคตับอักเสบบีเรื้อรังและสุขภาพของคุณ
ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรังจำเป็นต้องพบแพทย์อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งเพราะความเสียหายของตับเกิดได้ตลอดเวลา แพทย์จะให้คำแนะนำที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเอง วิธีดูแลตับที่ถูกต้อง พร้อมทั้งจะบอกว่าคุณมีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ และจะส่งต่อคุณไปยังผู้เชี่ยวชาญเรื่องตับถ้าหากมีความจำเป็น คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรังมีสุขภาพดีและไม่จำเป็นต้องใช้ยาสำหรับรักษาโรคนี้
จะช่วยตับของคุณได้อย่างไร?
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้อยลงหรือไม่ดื่มเลย
- รับประทานอาหารครบทุกหมู่และหลีกเลี่ยงอาหารมัน
- รักษาน้ำหนักให้เหมาะสมกับสุขภาพของคุณ
- เลิกหรือลดการสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- จัดการกับความเครียด เข้ารับความช่วยเหลือและพักผ่อนให้เพียงพอ
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบเอ เพราะถ้าติดเชื้อไวรัสชนิดอื่นใดเพิ่มเข้าไป ในขณะที่เป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรังอยู่แล้วจะทำให้โรคตับทวีความรุนแรงมากขึ้น
‘พาหะนำโรคที่มีสุขภาพดี’ นั้น-ไม่มี
โรคตับอักเสบบีเเรื้อรังป็นโรคที่ซับซ้อน เปลี่ยนแปลงได้ทุกช่วงเวลาพร้อมกับที่มีบางช่วงที่ตับไม่โดนทำลาย ซึ่ง ในอดีตจะเรียกคนที่มีช่วงเวลาเหล่านี้ว่าเป็น ‘พาหะนำโรคที่มีสุขภาพดี’ แต่ที่จริงแล้วโรคมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งกว่าจะรู้ก็เสี่ยงที่ตับจะถูกทำลายและกลายเป็นโรคตับแข็งได้ ปัจจุบันนี้เป็นที่รู้กันแล้วว่า ‘พาหะนำโรคที่มีสุขภาพดี’ นั้นไม่มี วิธีเดียวที่จะรู้ว่าโรคตับอักเสบบีเรื้อรังกำลังมีผลอย่างไรกับตับของคุณคือต้องตรวจตับเป็นประจำ ถึงในอดีตคุณเคยได้รับการบอกกล่าวว่าเป็น ‘พาหะนำโรคที่มีสุขภาพดี’ คุณ ก็ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คปีละครั้ง
คุณเป็นโรคตับอักเสบบีได้อย่างไร?
โรคตับอักเสบบีพบในของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อ เช่น เลือด น้ำอสุจิ และของเหลวในช่องคลอด โรคตับอักเสบบีติดต่อเมื่อของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อผ่านเข้าสู่ร่างกายของบุคคลอื่น แม้ปริมาณของเหลวจะน้อยมากจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่ก็สามารถแพร่เชื้อไวรัสไปได้
ยิ่งมีอายุน้อยเท่าไรขณะที่ได้รับโรคตับอักเสบบีก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นเท่านั้นที่โรคจะดำเนินกลายเป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรังเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ กรณีนี้ส่วนมากเกิดขึ้นจาก ขณะคลอด เชื้อไวรัสจะติดต่อจากแม่ที่เป็นโรคไปยังทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา ในวัยเด็ก จากคนหนึ่งติดต่อไปยังอีกคนผ่านทางแผลหรือรอยบาดที่ไม่ปิดแผลให้เรียบร้อย
คนวัยผู้ใหญ่ส่วนมากที่เป็นโรคตับอักเสบบี สามารถกำจัดเชื้อไวรัสให้หมดไปได้ คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสนี้จาก
- การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคโดยไม่สวมถุงยาง
- การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
โรคตับอักเสบบียังติดต่อโดย
- ใช้อุปกรณ์ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น มีดโกน, แปรงสีฟันหรือของใช้อื่นๆที่มีเลือดติดอยู่
- การฉีดยาและขั้นตอนทางการแพทย์ และทันตกรรมในประเทศที่อุปกรณ์ต่างๆไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง แต่ในประเทศออสเตรเลียมีความปลอดภัย
- ผ่านการถ่ายเลือดในประเทศที่เลือดไม่ได้ตรวจหาโรคตับอักเสบบี ในประเทศออสเตรเลียการถ่ายเลือดมีความปลอดภัย
- ผ่านวิธีการรักษาแบบดั้งเดิมที่อาจเกี่ยวข้องกับเลือด เช่น การฝังเข็ม
- การใช้อุปกรณ์การสักที่ไม่ได้รับการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง ซึ่งรวมถึงการสักเพื่อเสริมความงาม
คุณไม่ติดโรคตับอักเสบบีจาก
- ไอ
- กอด
- แมลงกัดต่อย
- ใช้ห้องน้ำหรือสุขาร่วมกัน
- การใช้อุปกรณ์ทำอาหารและช้อนส้อมร่วมกัน
- สระว่ายน้ำ
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทารกได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี
อุบัติการณ์ของโรคตับอักเสบบีทั่วโลก
ประชากรกว่า 350 ล้านคนทั่วโลกเป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตถึง 1 ล้านคน โดยทั่วไปการติดเชื้อที่เกิดขึ้นมากที่สุดเป็นการติดจากแม่สู่ทารกขณะคลอด
การแพร่กระจายของโรคตับอักเสบบีทั่วโลก
ที่มา : WHO 2001
ในประเทศออสเตรเลีย ส่วนมากผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง คือ ผู้ที่เกิดในต่างประเทศที่มีโรคตับอักเสบบีเกิดขึ้นอยู่ทั่วไป
อาการของโรคตับอักเสบบีเป็นอย่างไร?
คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคตับอักเสบบีจะไม่มีอาการเฉพาะใดๆ และหลายคนอาจไม่ทราบว่ามีโรคตับอักเสบบีอยู่ในร่างกาย แต่ถึงจะไม่มีอาการใดๆ ตับก็กำลังถูกทำลายจากเชื้อไวรัส
อาการที่มีจะเป็นๆหายๆ และอาจคล้ายกับอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ อาการที่เป็นไปได้ของโรคตับอักเสบบี ได้แก่
- ปวดตามข้อต่อ ปวดเมื่อย
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้ (ความรู้สึกเหมือนจะอาเจียน)
- อาการปวดที่ตับ (ด้านบนขวาของช่องท้อง)
- เหนื่อยล้า ภาวะซึมเศร้าและหงุดหงิด
- อาเจียน
วิธีเดียวที่จะทราบว่าคุณมีโรคตับอักเสบบี คือการได้รับการตรวจเลือดที่ถูกต้อง
การตรวจหาโรคตับอักเสบบี
ไม่ใช่ว่าการตรวจเลือดทุกประเภทจะบอกได้ว่าเป็นโรคตับอักเสบบี แพทย์ต้องสั่งตรวจเลือดหาโรคตับอักเสบบีถึงจะสามารถทราบผลว่าติดเชื้อหรือ ไม่ การตรวจเลือดจะบอกว่าคุณเป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง หรือ มีการสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านโรคตับอักเสบบี
ปรึกษาแพทย์ของคุณถ้าต้องการตรวจหาโรคตับอักเสบบี การตรวจสุขภาพสำหรับการย้ายถิ่นฐานมาออสเตรเลียไม่ตรวจหาโรคตับอักเสบบี
หากคุณเป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง แพทย์ของคุณอาจต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อดูความเสียหายของตับและความจำเป็นใน การใช้ยา แพทย์จะอธิบายถึงการตรวจแต่ละประเภทและอธิบายว่าทำไมถึงต้องสั่งตรวจเพิ่ม เติม
คุณควรตรวจหาโรคตับอักเสบบี ถ้าคุณ
- เกิดหรืออาศัยอยู่ในประเทศที่มีโรคตับอักเสบบีเกิดขึ้นอยู่ทั่วไป หรือในประเทศที่ไม่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบีฟรีสำหรับทารกและ เด็ก
- มีบิดามารดาหรือสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคตับอักเสบบีโรคตับหรือโรคมะเร็งตับ
- เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคตับอักเสบบี หรือพักอาศัยกับคนที่เป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง
- เคยถ่ายเลือด เคยผ่านขั้นตอนทางการแพทย์หรือทำฟันในประเทศที่กำลังพัฒนา
- เคยมีส่วนร่วมในการปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับเลือด เช่น สัก ฯลฯ
โรคนี้มียารักษาหรือไม่?
โรคนี้ไม่มียารักษาให้หายขาดแต่มียาที่สามารถควบคุมเชื้อไวรัส ช่วยลดความเสียหายของตับและลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งตับ นอกจากนี้ยังช่วยตับให้ซ่อมแซมตัวเองด้วย แพทย์ของคุณจะแจ้งคุณถ้าคุณจำเป็นต้องใช้ยา นี่คือเหตุผลสำคัญที่ต้องไปพบแพทย์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ
หากคุณจำเป็นต้องใช้ยาแพทย์ของคุณจะส่งคุณไปพบผู้เชี่ยวชาญเรื่องตับซึ่งจะอธิบายถึงยาต่างๆที่มีและยาใดที่ดีที่สุดสำหรับคุณ คุณต้องพบผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำเมื่อคุณเริ่มใช้ยา และถ้ามีปัญหาในการใช้ยาคุณไม่ควรหยุดยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
แจ้งให้แพทย์และผู้เชี่ยวชาญของคุณทราบถ้าคุณใช้ยาใดๆ ที่มาจากธรรมชาติเช่นสมุนไพรหรือการเยียวยาแบบดั้งเดิม เพราะอาจมีผลต่อตับหรือทำให้ยาทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แพทย์จะให้คำแนะนำว่ายาสมุนไพรหรือยาแผนโบราณใดที่คุณควรหลีกเลี่ยง
เราจะหยุดการแพร่กระจายของโรคตับอักเสบบีอย่างไร?
การฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวของคุณและคนใกล้ชิดในการป้องกันโรคตับอักเสบบี
ในประเทศออสเตรเลียมีการเสนอฉีดวัคซีนฟรีสำหรับทารกแรกเกิด และต้องฉีดซ้ำอีกภายในระยะเวลา 12 เดือนแรกเพื่อที่จะได้ป้องกันได้อย่างเต็มที่ วัคซีนที่ใช้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การฉีดวัคซีนนี้ฟรีสำหรับเด็กและวัยรุ่น และยังฉีดฟรีให้กับสมาชิกในครอบครัว และคนที่ใกล้ชิดกับคนที่เป็นโรคตับอักเสบบี ควรปรึกษาแพทย์ของคุณเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
เราสามารถหยุดการแพร่กระจายของโรคตับอักเสบบีได้ ด้วยวิธีอื่นๆ อีกเช่น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือด ไม่ใช้มีดโกนหนวด แปรงสีฟันหรืออุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน
- ควรปิดบาดแผล ทำความสะอาดหยดเลือดที่เปื้อนตามที่ต่างๆด้วยสารเคมีเพื่อป้องกันการแพร่ กระจายของเชื้อ และอย่าให้ใครสัมผัสแผลของคุณ หรือสัมผัสเลือดโดยไม่สวมถุงมือ
- ทิ้งของใช้ส่วนตัวเช่นกระดาษชำระ ผ้าอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอดและผ้าพันแผลในถุงพลาสติกปิดผนึก
- ใช้ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- ไม่ใช้เข็มฉีดยาหรืออุปกรณ์ฉีดยาร่วมกัน
ใครที่คุณควรบอก?
นี่เป็นคำถามธรรมดาๆแต่เป็นเรื่องยากที่จะตอบเพราะทุกคนมีความจำเป็นและความสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน การบอกเรื่องราวของคุณกับคนที่เข้าใจและช่วยเหลือคุณได้นั้นเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ แต่คุณควรใช้เวลาในการตัดสินใจว่าใครที่คุณควรไว้ใจ
คุณไม่ต้องบอกทุกคนว่าคุณเป็นโรคตับอักเสบบี แต่คุณต้องป้องกันไม่ให้โรคนี้ติดต่อไปยังคนอื่นๆ และที่สำคัญก็คือต้องบอกให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับคุณหรือคนที่คุณมีเพศสัมพันธ์ด้วยทราบ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ไปตรวจเลือดและรับวัคซีน กับคนอื่นๆคุณไม่จำเป็นต้องบอก
บอกเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพ เช่น ทันตแพทย์หรือแพทย์อื่นๆ เพื่อพวกเขาจะได้ให้การดูแลทางการแพทย์ที่ดีที่สุดกับคุณ แต่นี่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณและเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ พวกเขาจะไม่เลือกปฏิบัติกับคุณไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตาม
ในรัฐนิวเซาท์เวลล์มีบางกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าคุณต้องบอกคนอื่นว่าเป็นโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง
กรณีที่ว่านี้คือถ้า
- บริษัทประกันภัยของคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อและการเจ็บป่วย
- คุณทำงานหรือต้องการเข้าร่วมในกองทัพของออสเตรเตรเลีย
- คุณต้องการบริจาคเลือดหรือน้ำอสุจิ
หากคุณไม่แน่ใจว่าจะบอกใครดีหรือจะบอกอย่างไร คุณสามารถขอคำแนะนำได้จากหน่วยบริการด้านล่างนี้
ข้อมูลและความช่วยเหลือ
แพทย์ของคุณสามารถตอบคำถามใด ๆ ที่คุณอาจมีเกี่ยวกับโรคตับอักเสบบี หรือ คุณยังสามารถสอบถามได้ที่
- Hepatitis NSW - Hepatitis Infoline
- โทรฟรี: 1800 803 990
- www.hep.org.au
- Hepatitis Australia (เฮปไตตีส ออสเตรเลีย)
- สายข้อมูลแห่งชาติ: 1300 437 222
- www.hepatitisaustralia.com
- Cancer Council Help Line (แค็นเซอร์ เคานซิล เฮ็ลพ ไลน์-สายด่วนสภามะเร็ง)
- โทร : 13 11 20
- www.cancercouncil.com.au
- Multicultural HIV and Hepatitis Service (มัลติเคาเชอรัล เอชไอวี แอนด์ เฮปไตตีสเซอร์วิส-บริการด้านเอชไอวี และโรคตับอักเสบ ที่สอดรับกับวัฒนธรรมแบบต่างๆ)
- ข้อมูลโรคตับอักเสบในภาษาไทย สามารถอ่านได้จาก
- www.mhahs.org.au
- HALC
- สำหรับคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเลือกปฏิบัติหรือปัญหาทางกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคตับอักเสบบี
- โทร : 02 9206 2060
- โทรฟรี: 1800 063 060
- www.halc.org.au
- Translating and Interpreting Service (TIS)(ทิส-บริการแปลและล่าม)
- โทร : 131 450
- หากต้องการพูดโทรศัพท์กับหน่วยบริการต่างๆเป็นภาษาไทย ให้โทรไปที่ทิส และเมื่อล่ามอยู่ในสายแล้ว ขอให้ล่ามโทรไปยังหน่วยบริการที่คุณต้องการติดต่อด้วย ค่าใช้จ่ายในการโทรคิดตามอัตราค่าบริการของสายท้องถิ่น
Health care interpreters (ล่ามด้านสุขภาพ)
โรคตับอักเสบบีเป็นโรคที่ซับซ้อนและยากที่จะเข้าใจ โรงพยาบาบมีบริการล่ามไว้แปลสิ่งที่แพทย์พูดและคำถามที่คุณต้องการถามแพทย์ ตอนที่คุณโทรนัดพบแพทย์ ให้บอกเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ว่าคุณต้องการล่าม